ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงการใช้งานงบการเงิน (Financial Statements) ใน TradingView ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการวิเคราะห์สถานะทางการเงินของบริษัท งบการเงินช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพรวมของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นรายได้ กำไร ทรัพย์สิน และหนี้สินต่างๆ โดยข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญมากในการตัดสินใจลงทุนในบริษัทใดบริษัทหนึ่ง
การสรุปงบการเงินใน TradingView
ใน TradingView มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถดูงบการเงินได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยมีการสรุปข้อมูลในรูปแบบกราฟิก ทำให้นักลงทุนสามารถดูภาพรวมของบริษัทในหน้าเดียว ไม่ว่าจะเป็น Market Cap หรือข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัท
ตัวอย่างเช่น หากเรากำลังดูข้อมูลของบริษัท Apple เราสามารถเห็น Market Cap ของบริษัทที่แสดงเป็นภาพใหญ่ ซึ่งบ่งบอกถึงมูลค่าตลาดทั้งหมดของบริษัท การเห็นข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจภาพรวมของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น
การวิเคราะห์ข้อมูลจาก Estimate และ Expectation
ในส่วนของงบการเงิน TradingView ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประเมินค่า (Estimate) และความคาดหวัง (Expectation) ของนักวิเคราะห์ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์แนวโน้มของบริษัทได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วน ตัวอย่างเช่น ข้อมูลที่แสดงถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะมีผลประกอบการเป็นอย่างไรในอนาคต
นักลงทุนสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อเปรียบเทียบว่าค่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ (Estimate) นั้นสอดคล้องกับผลประกอบการจริง (Actual) หรือไม่ หากผลประกอบการจริงดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ก็ถือว่าเป็นสัญญาณบวกสำหรับบริษัท
การเปรียบเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน
การวิเคราะห์งบการเงินใน TradingView ไม่ได้หยุดเพียงแค่การดูข้อมูลของบริษัทเดียว นักลงทุนยังสามารถเปรียบเทียบบริษัทกับบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกันได้ ตัวอย่างเช่น การเปรียบเทียบระหว่าง Apple และ Uber จะช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพรวมว่า บริษัทใดมี Market Cap ที่ใหญ่กว่า และมีผลประกอบการที่ดีกว่า
การเปรียบเทียบนี้จะช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้ว่าบริษัทใดมีศักยภาพในการเติบโตมากกว่า โดยพิจารณาจากข้อมูลด้านการเงินและผลประกอบการในแต่ละช่วงเวลา
การใช้ข้อมูล P/E Ratio ในการตัดสินใจ
หนึ่งในข้อมูลที่สำคัญสำหรับนักลงทุนคือ P/E Ratio หรือ อัตราส่วนราคาต่อกำไร ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจว่าบริษัทนั้นๆ มีมูลค่ามากน้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับกำไรที่บริษัททำได้ หากบริษัทไม่มี P/E Ratio แสดงอยู่ อาจหมายถึงบริษัทนั้นยังคงขาดทุน และนักลงทุนอาจต้องระมัดระวังในการลงทุน
ตัวอย่างเช่น บริษัท Uber ไม่มี P/E Ratio เพราะบริษัทนี้ยังคงขาดทุนอยู่ ในขณะที่ Apple มี P/E Ratio ที่ดี ซึ่งแสดงถึงการทำกำไรที่มั่นคง การพิจารณา P/E Ratio ร่วมกับข้อมูลอื่นๆ จะช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น
คำถาม
- Market Cap ใน Financial Statements ของ TradingView มีบทบาทอย่างไรในการประเมินมูลค่าของบริษัทและเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน?
- Actual และ Estimate ในรายงานผลประกอบการ (Earnings) สื่อถึงอะไร และเหตุใดการที่ Actual ต่ำกว่า Estimate จึงมักทำให้ราคาหุ้นลดลงในระยะสั้น?
- Income Statement แสดงข้อมูลรายได้และกำไรสุทธิของบริษัทอย่างไร และทำไม Profit Margin จึงเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการวิเคราะห์ความสามารถในการทำกำไร?
- ทำไมการดูข้อมูลย้อนหลัง 5 ปีใน Financial Statements จึงช่วยให้นักลงทุนเห็นแนวโน้มของบริษัทในระยะกลางถึงยาว?
- นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการลงทุนในบริษัทที่มี Net Income ติดลบอย่างไร และเหตุใด PE Ratio จึงไม่มีในกรณีที่บริษัทขาดทุน?
สรุป
การใช้ Financial Statements ใน TradingView เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากสำหรับนักลงทุนที่ต้องการวิเคราะห์บริษัททั้งในด้านการเงินและผลประกอบการ ข้อมูลจากงบการเงิน ช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพรวมของบริษัท เปรียบเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน และช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากขึ้นเมื่อทำการลงทุนในหุ้น
คำสำคัญ: TradingView, Financial Statements, Estimate, Expectation, P/E Ratio, Market Cap
อ้างอิง: G108-2 Overview of Financial Statements in TradingView
โพสนี้ถูกสรุปสั้นๆ จาก VDO อ้างอิง เพื่อใช้ทวน นักศึกษาควรดูวิดีโอนั้นๆ ตามรหัสวิดีโอ