เจมี ไดมอน (Jamie Dimon) เป็นซีอีโอของ JPMorgan Chase ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา เขาได้ผ่านวิกฤตการณ์ทางการเงินและพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยความสามารถและความมุ่งมั่น เขาจึงกลายเป็นหนึ่งในผู้บริหารวาณิชธนกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
ชีวิตในวัยเด็กและความทะเยอทะยาน
เจมี ไดมอนเกิดในครอบครัวที่ทำงานด้านการเงิน ปู่ของเขาอพยพมาอเมริกาในปี 1921 และสร้างฐานะด้วยการเป็นนายธนาคารและโบรกเกอร์ เมื่อเจมีเกิด พ่อของเขาเป็นโบรกเกอร์ที่ร่ำรวยอยู่แล้ว แต่ไดมอนมีความทะเยอทะยานที่ต้องการมากกว่านั้น เขารู้ตั้งแต่วัยเด็กว่าการอยู่ในวงการการเงินคือเส้นทางที่จะนำเขาไปสู่ความสำเร็จ
การศึกษาและเส้นทางการทำงาน
แม้ว่าไดมอนจะถูกปฏิเสธจากมหาวิทยาลัยบราวน์ แต่เขาได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยทัฟส์และจบการศึกษาจาก Harvard Business School ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ในระหว่างที่เพื่อนร่วมชั้นของเขาได้รับข้อเสนองานจากธนาคารชื่อดังหลายแห่ง ไดมอนตัดสินใจทำงานให้กับซีอีโอคนหนึ่งที่เขานับถือคือ ซานดี ไวล์ (Sandy Weil) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการเงินที่ประสบความสำเร็จ
ความสัมพันธ์กับ Sandy Weil
ซานดี ไวล์ เป็นผู้สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์การเงินหลายแห่ง และเขาได้ทำให้ไดมอนกลายเป็นผู้ช่วยที่เชื่อใจได้ เจมี ไดมอนได้รับโอกาสในการทำงานใกล้ชิดกับไวล์ในเรื่องการเจรจาดีลสำคัญๆ ที่มีมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ แต่หลังจากความขัดแย้งกับบอร์ดของ American Express ไวล์ได้ลาออกและไดมอนก็ตัดสินใจลาออกตาม
ก้าวสู่ความเป็นผู้บริหาร
หลังจากออกจาก American Express ไดมอนและไวล์ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทการเงินชื่อ Commercial Credit ที่เมืองบัลติมอร์ ไดมอนสามารถพลิกสถานการณ์บริษัทที่แทบจะล้มละลายให้กลับมามีกำไรได้อย่างรวดเร็ว และพวกเขายังสามารถซื้อกิจการใหญ่เช่น Primarica จนกลายเป็นบริษัทการเงินที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาชื่อ Citigroup
ความขัดแย้งและการล้มเหลว
แม้ว่าไดมอนจะประสบความสำเร็จในการพัฒนา Citigroup แต่ความขัดแย้งกับไวล์เริ่มเกิดขึ้น เมื่อไวล์นำลูกสาวของเขามาทำงานในบริษัท และไดมอนไม่ได้มอบโอกาสพิเศษให้เธอ เนื่องจากเธอไม่สามารถทำงานได้ตามเป้า สุดท้ายไดมอนถูกไล่ออกจาก Citigroup ในปี 1998 และเขาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ธนาคาร Bank One
การฟื้นฟู Bank One
ไดมอนรับตำแหน่งซีอีโอของ Bank One และได้ปรับโครงสร้างของบริษัทใหม่ทั้งหมด โดยขายกิจการที่ไม่ทำกำไร ปรับลดค่าใช้จ่าย และเลิกจ้างพนักงานกว่า 12,000 คน แม้จะมีความท้าทาย แต่ไดมอนสามารถนำพาบริษัทกลับมามีกำไรได้อย่างน่าทึ่ง
ความสำเร็จที่ JPMorgan Chase
ในปี 2004 ไดมอนได้เข้าร่วมกับ JPMorgan Chase ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอเมริกา และกลายเป็นซีอีโอหลังจากหนึ่งปี ไดมอนใช้กลยุทธ์การสร้าง “ป้อมปราการทางการเงิน” เพื่อทำให้บริษัทมีความมั่นคงมากขึ้น และด้วยความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน เขาได้นำพา JPMorgan ให้ก้าวขึ้นเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา
วิกฤตการเงินปี 2008
ในปี 2008 วิกฤตการเงินเกิดขึ้นและทำให้หลายธนาคารล้มละลาย แต่ JPMorgan ภายใต้การนำของไดมอน กลับสามารถอยู่รอดได้และยังได้โอกาสซื้อกิจการ Bear Stearns ในราคาถูก นอกจากนี้ ไดมอนยังสามารถทำให้ JPMorgan กลายเป็นธนาคารที่ผู้คนเชื่อมั่นมากที่สุด
สรุป
เจมี ไดมอนเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในวงการการเงินโลก ด้วยความสามารถในการปรับโครงสร้างบริษัทและนำพาบริษัทให้ผ่านวิกฤตการณ์ต่างๆ เขาได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่ไม่เพียงแค่ทำให้ JPMorgan ประสบความสำเร็จ แต่ยังสร้างอนาคตที่แข็งแกร่งให้กับธนาคารและลูกค้าอีกด้วย
คำสำคัญ: เจมี ไดมอน, JPMorgan Chase, วาณิชธนกิจ, การเงิน, วิกฤตการเงิน
อ้างอิง: G110-C Jamie Dimon
โพสนี้ถูกสรุปสั้นๆ จาก VDO อ้างอิง เพื่อใช้ทวน นักศึกษาควรดูวิดีโอนั้นๆ ตามรหัสวิดีโอ