เกณฑ์การคัดเลือก Prodigy: ความสามารถและการปรับตัวสำหรับการลงทุน

ในบทความนี้ เราจะพูดถึงเกณฑ์การคัดเลือก Prodigy สำหรับการลงทุน โดยจะเน้นไปที่เกณฑ์ความสามารถและการปรับตัว เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถตัดสินใจเลือกผู้ที่มีศักยภาพและความสามารถในการเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเกณฑ์ที่กล่าวถึงนี้รวมไปถึงการพิจารณาถึงความมีวุฒิภาวะ การแข่งขัน และความสัมพันธ์กับเครือข่ายที่ดี

เกณฑ์ข้อที่ 5: วุฒิภาวะ (Maturity)

การที่ Prodigy มีวุฒิภาวะในการตัดสินใจและความสามารถในการรักษาความสุขุมเป็นสิ่งสำคัญที่บ่งบอกถึงความพร้อมในการเป็นผู้นำ มีรายงานล่าสุดที่แสดงว่า CEO ของสตาร์ตอัพที่มีมูลค่าสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์มักจะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป นี่คือช่วงเวลาที่บุคคลสามารถแสดงถึงความมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจทางธุรกิจได้ดีที่สุด

ตัวอย่างของ Prodigy ที่มีวุฒิภาวะ เช่น Warren Buffett ที่แสดงความสุขุมในการตัดสินใจโดยไม่สนใจสิ่งที่ผู้อื่นทำ การมีวุฒิภาวะช่วยให้บุคคลสามารถมองเห็นภาพรวมได้ดีกว่าการทำตามกระแส ผู้ที่มีวุฒิภาวะสูงมักมีความสามารถในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและไม่ถูกผลกระทบจากอารมณ์ชั่วคราว

เกณฑ์ข้อที่ 6: การแข่งขัน (Competitiveness)

ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง Prodigy ที่มีความสามารถในการแข่งขันจะสามารถอยู่รอดและเติบโตได้ Peter Thiel เคยกล่าวไว้ว่า “Competition is for losers” หรือการแข่งขันนั้นเป็นเรื่องของผู้แพ้ เพราะผู้ที่เป็นผู้นำในตลาดไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับใคร แต่ควรสร้างตลาดของตนเองขึ้นมา ตัวอย่างเช่น Google ที่ครองตลาด Search Engine โดยไม่มีคู่แข่งที่แท้จริง หรือ Microsoft ที่สร้างความสำเร็จผ่านผลิตภัณฑ์ Office ของพวกเขา

การที่ Prodigy มีความสามารถในการแข่งขันไม่เพียงแค่การเอาชนะคู่แข่ง แต่ยังหมายถึงการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและสามารถก้าวผ่านตลาดได้ เช่น Microsoft ที่สามารถครองตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความแข็งแกร่ง การแข่งขันในตลาดนั้นไม่เพียงแค่การต่อสู้กับคู่แข่ง แต่ยังเป็นการเติบโตด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

เกณฑ์ข้อที่ 7: ความสัมพันธ์กับเครือข่าย (Connections)

การมีเครือข่ายที่ดีและการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นเป็นสิ่งที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของ Prodigy เช่นเดียวกับกรณีของ Apple ที่มีลูกค้าประจำและผู้ติดตามที่เหนียวแน่น หรือ Tesla ที่มีผู้ติดตามที่เปรียบเสมือนลัทธิ (CULTS) ที่เชื่อมั่นในตัว Elon Musk อย่างมาก

การมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งไม่เพียงช่วยให้ Prodigy เติบโต แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในตลาดด้วย ความสัมพันธ์กับผู้คนที่มีอิทธิพลในอุตสาหกรรม เช่น CEO ของบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Steve Jobs และ Bill Gates มักจะทำให้ Prodigy สามารถขยายตัวและสร้างชื่อเสียงได้ในระยะยาว

คำถาม

  1. ทำไม Maturity หรือความเป็นผู้ใหญ่จึงมีความสำคัญในการประเมิน Prodigy และเหตุใดนักลงทุนจึงควรมองหาผู้นำที่มีอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป?
  2. เหตุใดการมี Mentor และทีมที่แข็งแกร่งจึงสำคัญต่อความสำเร็จของ Prodigy ในการบริหารบริษัทในระยะยาว?
  3. ทำไมการมองหา CEO ที่มีความสามารถในการแข่งขันแบบ League of One จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกบริษัทที่ควรลงทุน?
  4. Cash Cow คืออะไร และทำไมการมีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง เช่น Microsoft Office จึงเป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจ?
  5. Connection และ Collaboration ระหว่างบริษัทต่างๆ เช่น Apple และ Microsoft มีผลอย่างไรต่อการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและการเติบโตของบริษัท?

สรุป

การคัดเลือก Prodigy สำหรับการลงทุนจำเป็นต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของวุฒิภาวะ ความสามารถในการแข่งขัน และความสัมพันธ์กับเครือข่าย การที่ Prodigy มีคุณสมบัติครบถ้วนในเกณฑ์เหล่านี้ จะช่วยให้ผู้ลงทุนมั่นใจได้ว่าการลงทุนในบุคคลเหล่านี้จะมีโอกาสสำเร็จในระยะยาว

คำสำคัญ: Prodigy, วุฒิภาวะ, การแข่งขัน, การลงทุน, Connections, Elon Musk, Steve Jobs

อ้างอิง: G112-4 Criteria 5 to 7 for Prodigies

โพสนี้ถูกสรุปสั้นๆ จาก VDO อ้างอิง เพื่อใช้ทวน นักศึกษาควรดูวิดีโอนั้นๆ ตามรหัสวิดีโอ