งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement) เป็นหนึ่งในสามงบการเงินหลักที่นักลงทุนใช้ในการวิเคราะห์สถานะทางการเงินของบริษัท งบกระแสเงินสดแสดงถึงการเคลื่อนไหวของเงินสดที่ไหลเข้าและออกจากบริษัท ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักได้แก่ กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Operating Activities), กระแสเงินสดจากการลงทุน (Investing Activities), และกระแสเงินสดจากการจัดหาเงินทุน (Financing Activities) ในบทความนี้เราจะมาดูรายละเอียดแต่ละส่วนและวิธีการใช้งบกระแสเงินสดในการวิเคราะห์ธุรกิจใน TradingView
กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Operating Activities)
กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นเงินที่บริษัทสร้างขึ้นจากธุรกิจหลักของตน ตัวอย่างเช่น บริษัท Apple ขาย iPhone และรายได้จากการขายนั้นจะถูกรายงานในส่วนนี้ แต่ไม่ใช่แค่รายได้อย่างเดียว ค่าใช้จ่ายในการผลิตสินค้า เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ จะถูกหักออกจากรายได้เพื่อให้เห็นว่าบริษัทสร้างกระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานได้มากน้อยเพียงใด
หากบริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานได้สูง แสดงว่าบริษัทมีความสามารถในการสร้างรายได้จากธุรกิจหลักได้ดี ตัวอย่างเช่น หาก Apple มีการขาย iPhone มากในช่วงหนึ่งและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี กระแสเงินสดจากการดำเนินงานจะสูง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักลงทุน
กระแสเงินสดจากการลงทุน (Investing Activities)
กระแสเงินสดจากการลงทุนแสดงถึงเงินที่บริษัทใช้หรือได้รับจากกิจกรรมการลงทุน ซึ่งรวมถึงการซื้อหรือขายทรัพย์สินทางกายภาพ เช่น อาคารและเครื่องจักร รวมถึงการลงทุนในบริษัทอื่นๆ หากบริษัทมีการซื้อทรัพย์สินมากขึ้น เงินสดในส่วนนี้จะเป็นลบ แต่ถ้าบริษัทขายทรัพย์สินหรือการลงทุนบางส่วน เงินสดในส่วนนี้จะเป็นบวก
ตัวอย่างเช่น Apple อาจตัดสินใจขายสำนักงานหรือทรัพย์สินบางส่วนเพื่อสร้างรายได้ หรืออาจใช้เงินในการซื้อกิจการอื่นๆ การตรวจสอบกระแสเงินสดจากการลงทุนจะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจว่าบริษัทกำลังใช้เงินไปกับการลงทุนในส่วนใดและมีศักยภาพในการสร้างรายได้เพิ่มเติมหรือไม่
กระแสเงินสดจากการจัดหาเงินทุน (Financing Activities)
ส่วนนี้แสดงถึงเงินที่ได้มาหรือใช้ไปกับการจัดหาเงินทุน เช่น การกู้ยืมเงิน การออกหุ้นใหม่ หรือการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ตัวอย่างเช่น หากบริษัทออกหุ้นใหม่เพื่อระดมทุน เงินสดในส่วนนี้จะเป็นบวก ในขณะที่การจ่ายเงินปันผลหรือการซื้อหุ้นคืน (Buyback) จะทำให้เงินสดในส่วนนี้เป็นลบ
ตัวอย่างเช่น Apple มีการซื้อหุ้นคืนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2018 ทำให้เงินสดในส่วนนี้ลดลง แต่การซื้อหุ้นคืนเป็นสัญญาณที่ดีว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นในบริษัทและบริษัทมีเงินสดเพียงพอในการจ่ายคืนให้กับผู้ถือหุ้น
การใช้ Cash Flow Statement ในการวิเคราะห์
การวิเคราะห์งบกระแสเงินสดช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพรวมของการใช้จ่ายและรายได้ของบริษัท ซึ่งสามารถใช้ในการประเมินสถานะทางการเงินของบริษัทในระยะยาวได้ ข้อมูลจาก Cash Flow Statement ช่วยให้นักลงทุนสามารถดูได้ว่าบริษัทมีความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากธุรกิจหลักได้มากเพียงใด และมีการลงทุนหรือการจัดการเงินทุนอย่างไร
ตัวอย่างเช่น หากบริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง แต่มีการใช้จ่ายในการลงทุนที่มากเกินไป อาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทอาจเผชิญกับปัญหาทางการเงินในอนาคต ในขณะเดียวกัน หากบริษัทมีกระแสเงินสดจากการจัดหาเงินทุนเป็นบวกจากการออกหุ้นใหม่หรือกู้ยืมเงิน แต่ไม่ได้ใช้จ่ายในกิจกรรมที่สร้างมูลค่า อาจเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรพิจารณา
คำถาม
- Cash Flow Statement คืออะไร และเหตุใดการวิเคราะห์กระแสเงินสดจึงสำคัญในการประเมินสถานะทางการเงินของบริษัท?
- Cash Flow จาก Operating Activities บ่งบอกอะไรเกี่ยวกับความสามารถของธุรกิจในการสร้างรายได้จากการดำเนินงานหลัก?
- เหตุใด Free Cash Flow จึงมีความสำคัญสำหรับนักลงทุนในการประเมินเงินสดที่เหลือหลังจากการดำเนินงานและการลงทุนของบริษัท?
- การ Buyback Stock มีผลอย่างไรต่อราคาหุ้นของบริษัท และทำไมบริษัทถึงเลือกที่จะซื้อหุ้นคืนจากตลาด?
- เหตุใดการวิเคราะห์ Cash Flow จาก Financing Activities จึงสำคัญในการเข้าใจแหล่งเงินทุนและการใช้จ่ายเงินสดของบริษัท?
สรุป
งบกระแสเงินสดเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์สถานะการเงินของบริษัท การเข้าใจถึงกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน การลงทุน และการจัดหาเงินทุนจะช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินได้ว่าบริษัทมีความสามารถในการสร้างรายได้และใช้เงินอย่างไร ข้อมูลจาก TradingView ช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์งบกระแสเงินสดได้อย่างง่ายดายและใช้ในการตัดสินใจลงทุนได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
คำสำคัญ: Cash Flow Statement, กระแสเงินสด, การลงทุน, การจัดหาเงินทุน, Free Cash Flow, TradingView
อ้างอิง: G108-6 Cash Flow Statement in TradingView
โพสนี้ถูกสรุปสั้นๆ จาก VDO อ้างอิง เพื่อใช้ทวน นักศึกษาควรดูวิดีโอนั้นๆ ตามรหัสวิดีโอ