การวิเคราะห์ Bear Market และการฝึกปฏิบัติใน TradingView

ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับ Bear Market และวิธีการนำข้อมูลจากตลาดหมีมาวิเคราะห์ในโปรแกรม TradingView เพื่อฝึกฝนทักษะการวิเคราะห์ทางการเงิน Bear Market เป็นช่วงที่ตลาดมีการปรับตัวลดลงมากกว่า 20% ซึ่งมักจะเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนต้องเตรียมตัวและปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างระมัดระวัง

การเข้าใจ Bear Market

Bear Market หมายถึงช่วงที่ตลาดหุ้นหรือตลาดการเงินโดยรวมมีการปรับตัวลงมากกว่า 20% ซึ่งในตลาดนี้ นักลงทุนมักจะเผชิญกับความไม่แน่นอนสูง ผลตอบแทนของการลงทุนในช่วง Bear Market มักจะลดลง ทำให้การปรับกลยุทธ์การลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ ตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์ Bear Market ที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตทางการเงิน เช่น วิกฤต dot-com และวิกฤตการเงินปี 2008

Bear Market สามารถแบ่งออกได้เป็นสองส่วนหลักคือ Decline ซึ่งหมายถึงการปรับตัวลงจากจุดสูงสุดไปถึงจุดต่ำสุด และ Recovery คือการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดกลับมาสู่ระดับปกติ การวิเคราะห์ช่วงเวลานี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าใจถึงแนวโน้มของตลาดและเตรียมการสำหรับการลงทุนในอนาคต

วิธีการใช้ TradingView ในการวิเคราะห์ Bear Market

โปรแกรม TradingView เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ตลาด Bear Market ในการฝึกปฏิบัติครั้งนี้ คุณจะได้ใช้ TradingView เพื่อสร้างแผนภูมิที่แสดงถึงการปรับตัวของตลาดในช่วงเวลาต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 1990 จนถึงปี 2020 ตัวอย่างของ Bear Market ที่สำคัญ ได้แก่ วิกฤต dot-com และวิกฤตการเงินปี 2008

วิธีการเริ่มต้นคือให้นักลงทุนสร้างแผนภูมิใหม่ใน TradingView และตั้งชื่อเป็น “Bear Market” จากนั้นใช้เครื่องมือ Date and Price Range เพื่อวัดการปรับตัวลงของตลาด (Decline) และการฟื้นตัวของตลาด (Recovery) โดยในการวัด Decline ให้วัดจากจุดสูงสุดจนถึงจุดต่ำสุด และในการวัด Recovery ให้ดูว่าตลาดฟื้นตัวกลับมาเท่าเดิมได้เมื่อไหร่

การแบ่งช่วงเวลาและวัดผลตอบแทน

การวิเคราะห์ Bear Market สามารถทำได้โดยการใช้ช่วงเวลาที่ตลาดมีการปรับตัวลงมากกว่า 20% ซึ่งจะถือว่าเป็นช่วงที่ตลาดเข้าสู่ Bear Territory ตัวอย่างเช่นในช่วงวิกฤต dot-com ราคาหุ้นปรับตัวลงถึง 50% ในช่วงนี้ ตลาดจะต้องฟื้นตัวกลับมาในระดับปกติถึงจะถือว่าผ่านช่วง Bear Market

นักลงทุนสามารถใช้เครื่องมือ Date and Price Range ใน TradingView เพื่อสร้าง Template ที่แสดงถึงการปรับตัวของตลาดในแต่ละช่วงเวลา โดยใช้สีแดงสำหรับ Decline และสีเขียวสำหรับ Recovery ซึ่งจะช่วยให้เห็นภาพรวมของการเคลื่อนไหวของตลาดได้ชัดเจนขึ้น

การปฏิบัติใน TradingView

เพื่อฝึกฝนทักษะการวิเคราะห์ Bear Market นักลงทุนสามารถใช้ TradingView เพื่อสร้างกราฟที่แสดงถึงช่วงเวลาที่ตลาดมีการปรับตัวลงและฟื้นตัว ตัวอย่างเช่น ในช่วงปี 2000 ตลาดได้ปรับตัวลงถึง 50% และใช้เวลานานกว่าจะฟื้นตัวกลับมาในระดับเดิม การฝึกปฏิบัติใน TradingView จะช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์ตลาดได้ดีขึ้นและเตรียมพร้อมสำหรับ Bear Market ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

คำถาม

  1. Bear Market คืออะไร ในเชิงตัวเลข?
  2. การวัด Decline และ Recovery ใน Bear Market สามารถช่วยให้นักลงทุนเข้าใจระยะเวลาการฟื้นตัวของตลาดได้อย่างไร?
  3. การใช้ TradingView เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงใน Bear Market มีขั้นตอนอย่างไร และทำไมเครื่องมือนี้จึงมีประโยชน์ในการวิเคราะห์ตลาดย้อนหลัง?
  4. เหตุใด Bear Market ที่มีการลดลงอย่างรวดเร็ว (Steep Decline) จึงมักฟื้นตัวได้เร็วกว่า Bear Market ที่ลดลงอย่างช้า?
  5. การวิเคราะห์ Bear Market ในช่วงวิกฤตต่างๆ เช่น Dot-com Bubble และ COVID-19 มีบทบาทอย่างไรในการวางแผนการลงทุนในอนาคต?

สรุป

การวิเคราะห์ Bear Market เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความไม่แน่นอนในตลาด การใช้ TradingView เพื่อวิเคราะห์และฝึกปฏิบัติช่วยให้คุณสามารถเข้าใจการเคลื่อนไหวของตลาดได้ดีขึ้น รวมถึงการใช้เครื่องมือ Date and Price Range ในการวัดการปรับตัวลงและการฟื้นตัวของตลาด การฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้นักลงทุนสามารถรับมือกับ Bear Market ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คำสำคัญ: Bear Market, TradingView, Date and Price Range, Decline, Recovery, Bear Territory, Dot-com Bubble, Financial Crisis

อ้างอิง: G111-6 Bear Markets TradingView Practice

โพสนี้ถูกสรุปสั้นๆ จาก VDO อ้างอิง เพื่อใช้ทวน นักศึกษาควรดูวิดีโอนั้นๆ ตามรหัสวิดีโอ