ในการลงทุนในตลาดการเงิน การมีเครื่องมือที่สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญ TradingView เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่นักลงทุนส่วนใหญ่ใช้ในการวิเคราะห์และติดตามข้อมูลแบบเรียลไทม์ บทความนี้จะเป็นการแนะนำการใช้งาน TradingView ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน รวมถึงฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ต่างๆ เพื่อให้นักลงทุนมือใหม่สามารถนำไปปรับใช้กับการลงทุนของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประเภทของ Membership ใน TradingView
ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นใช้งาน TradingView ควรรู้จักกับประเภทของการเป็นสมาชิกในแพลตฟอร์มนี้ TradingView มีสมาชิกให้เลือกหลายแบบ เช่น Basic (ฟรี), Pro, Pro Plus และ Premium ราคาจะแตกต่างกันไป โดย Basic นั้นฟรี ส่วน Pro มีราคาประมาณ 500 บาทต่อเดือน, Pro Plus ประมาณ 1,000 บาทต่อเดือน และ Premium อยู่ที่ประมาณ 2,000 บาทต่อเดือน
สิ่งที่สำคัญคือต้องเลือกประเภทของสมาชิกที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ หากคุณเป็นนักลงทุนมือใหม่ การใช้ Basic อาจเพียงพอ แต่หากคุณต้องการฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนขึ้น การใช้ Pro หรือ Pro Plus จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ของคุณได้มากขึ้น
ข้อดีของ TradingView
TradingView มีข้อดีหลายประการที่ทำให้นักลงทุนหลายคนเลือกใช้ หนึ่งในนั้นคือ TradingView เป็นแพลตฟอร์มที่พร้อมใช้งานและมีข้อมูลครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลแบบเรียลไทม์ หรือข้อมูล End of Day ข้อมูลเหล่านี้จะถูกจัดเตรียมมาให้พร้อม ทำให้นักลงทุนไม่ต้องเสียเวลาในการหาข้อมูลหรือเสียเวลาในการจัดการข้อมูลเพิ่มเติม
นอกจากนี้ TradingView ยังมีฟีเจอร์ Backtesting ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถทดสอบกลยุทธ์การลงทุนได้ล่วงหน้า โดยใช้ข้อมูลในอดีตเพื่อตรวจสอบว่ากลยุทธ์ของคุณจะทำงานได้ดีหรือไม่ในสถานการณ์ต่างๆ และที่สำคัญ TradingView ยังสามารถใช้งานได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นบนคอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต หรือมือถือ ผ่านแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่สะดวก
ฟีเจอร์สำคัญใน TradingView
TradingView มีฟีเจอร์มากมายที่นักลงทุนสามารถใช้งานได้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล ตัวอย่างฟีเจอร์ที่สำคัญได้แก่:
- Chart: เป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์กราฟ ฟีเจอร์นี้มีเครื่องมือในการวาดเส้นต่างๆ เช่น เส้นแนวรับ (Support) เส้นแนวต้าน (Resistance) และเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถมองเห็นแนวโน้มของตลาดได้ง่ายขึ้น
- Screener: ช่วยให้นักลงทุนสามารถคัดกรองหุ้นตามเงื่อนไขที่ต้องการ เช่น กรองตาม Market Cap, กำไรต่อหุ้น (Earnings per Share) หรือเงื่อนไขอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์พื้นฐานของบริษัท
- Heatmap: เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่น่าสนใจ โดยแสดงผลการเปรียบเทียบระหว่างบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน ทำให้นักลงทุนสามารถเห็นภาพรวมของการแข่งขันในอุตสาหกรรมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
การใช้งาน TradingView เพื่อสร้างกลยุทธ์การลงทุน
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ TradingView มีความน่าสนใจคือความสามารถในการสร้างกลยุทธ์การลงทุน และนำกลยุทธ์นั้นไปใช้ในการตัดสินใจลงทุน ตัวอย่างเช่น การใช้ Heatmap เพื่อระบุบริษัทที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม จากนั้นนักลงทุนสามารถนำข้อมูลนี้ไปวิเคราะห์เพิ่มเติมเพื่อตัดสินใจว่า ควรลงทุนในบริษัทไหน โดยการเปรียบเทียบคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน
นอกจากนี้ การตั้งค่า Alert เพื่อให้ TradingView แจ้งเตือนเมื่อราคาหุ้นถึงจุดที่คุณกำหนดไว้ก็เป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มาก คุณสามารถตั้งค่าให้ TradingView แจ้งเตือนคุณผ่านอีเมลหรือแอปพลิเคชันเมื่อราคาหุ้นถึงจุดซื้อหรือขาย ทำให้คุณไม่พลาดโอกาสในการทำกำไร
TradingView กับการวิเคราะห์เชิงปัจจัย (Fundamental Analysis)
แม้ว่า TradingView จะเป็นที่รู้จักในด้านการวิเคราะห์เชิงเทคนิค แต่แพลตฟอร์มนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยในการวิเคราะห์เชิงปัจจัยได้ดีเช่นกัน คุณสามารถดูข้อมูลทางการเงิน เช่น อัตราส่วนกำไรสุทธิ, อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio), อัตราส่วนราคาต่อมูลค่าตามบัญชี (P/B Ratio) และข้อมูลอื่นๆ ที่ช่วยในการวิเคราะห์พื้นฐานของบริษัท
ฟีเจอร์นี้ทำให้นักลงทุนสามารถตรวจสอบสถานะทางการเงินของบริษัทได้รวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องหาแหล่งข้อมูลอื่น ทำให้การตัดสินใจลงทุนมีข้อมูลสนับสนุนที่ชัดเจน
คำถาม
- TradingView มีรูปแบบการสมัครสมาชิกแบบใดบ้าง และแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียอย่างไรในการใช้งานสำหรับนักลงทุนมือใหม่?
- เหตุใด TradingView จึงถือว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนที่ไม่เน้นการเขียนโค้ดหรือการทำ Backtest ขนาดใหญ่?
- ข้อดีของการใช้ TradingView ในการติดตามข้อมูลแบบ Real-time และการตั้งค่า Alert อัตโนมัติมีอะไรบ้าง?
- ฟีเจอร์ Volume Profile Indicator ใน TradingView มีความสำคัญอย่างไรในการช่วยวิเคราะห์จุดซื้อ-ขายหุ้น?
- การใช้ฟีเจอร์ Screener ของ TradingView ช่วยให้นักลงทุนสามารถกรองหุ้นตามเงื่อนไขต่างๆ ได้อย่างไร และเหตุใดฟีเจอร์นี้จึงสำคัญสำหรับการลงทุนแบบ Strategy?
สรุป
TradingView เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและเหมาะสำหรับนักลงทุนทุกระดับ ด้วยความสามารถในการแสดงผลกราฟที่หลากหลาย ฟีเจอร์ Screener ที่ช่วยคัดกรองหุ้น และฟีเจอร์ Heatmap ที่ช่วยเปรียบเทียบบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน นักลงทุนสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้เพื่อสร้างกลยุทธ์การลงทุนและตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือมีประสบการณ์แล้ว การใช้ TradingView จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และตัดสินใจลงทุนของคุณได้อย่างแน่นอน
คำสำคัญ: TradingView, การวิเคราะห์หุ้น, เครื่องมือการลงทุน, Screener, Heatmap
อ้างอิง: G105-1 Intro to TradingView
โพสนี้ถูกสรุปสั้นๆ จาก VDO อ้างอิง เพื่อใช้ทวน นักศึกษาควรดูวิดีโอนั้นๆ ตามรหัสวิดีโอ