การวิเคราะห์การแข่งขันระหว่างซีคอนสแควร์และพาราไดซ์พาร์คเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจในการใช้ Gravity Model เพื่อทำความเข้าใจถึงการไหลของเงินและปัจจัยที่ส่งผลต่อการดึงดูดลูกค้าและการลงทุน ทั้งสองห้างตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์ แต่มีความแตกต่างในขนาด การเข้าถึง และการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งส่งผลให้มีการแข่งขันระหว่างกันอย่างมาก
ความแตกต่างระหว่างขนาดและความได้เปรียบในการเข้าถึง
หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ซีคอนสแควร์มีความได้เปรียบมากกว่าพาราไดซ์พาร์คคือขนาดของพื้นที่ ซีคอนสแควร์มีขนาดใหญ่กว่าอย่างชัดเจน โดยพื้นที่ทั้งหมดของซีคอนสแควร์อยู่ที่ 500,000 ตารางเมตร ในขณะที่พาราไดซ์พาร์คมีขนาดเพียง 290,000 ตารางเมตรเท่านั้น ความแตกต่างนี้ทำให้ซีคอนสแควร์มีแรงดึงดูดที่มากกว่า และสามารถดึงดูดลูกค้าได้เป็นจำนวนมากกว่า เนื่องจากขนาดที่ใหญ่กว่า ซีคอนสแควร์จึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายกว่า เช่น ร้านค้าและบริการต่างๆ ที่มากขึ้น
นอกจากนี้ ซีคอนสแควร์ยังมีความได้เปรียบในการเข้าถึงที่ดีกว่า เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับเส้นทางหลักของถนนศรีนครินทร์ ซึ่งทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น การเข้าถึงที่สะดวกเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ซีคอนสแควร์ดึงดูดผู้บริโภคได้มากกว่า ในขณะที่พาราไดซ์พาร์คตั้งอยู่ลึกกว่าเล็กน้อย ทำให้ผู้คนต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่าในการเข้าถึง นอกจากนี้ ซีคอนสแควร์ยังเป็นห้างที่เปิดตัวก่อนพาราไดซ์พาร์ค ทำให้มีชื่อเสียงและการรับรู้ในตลาดที่ดีกว่า
ปัจจัยการพัฒนาและผลกระทบต่อการดึงดูดลูกค้า
ในปี 2537 ทั้งซีคอนสแควร์และพาราไดซ์พาร์ค (ที่ยังเป็นเสรีเซ็นเตอร์ในขณะนั้น) เริ่มต้นการพัฒนาใกล้เคียงกัน แต่ด้วยขนาดที่ต่างกันและการเข้าถึงที่ต่างกัน ซีคอนสแควร์สามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่เสรีเซ็นเตอร์ต้องประสบปัญหาด้านการพัฒนาพื้นที่ที่ลำบากจากการถูกรอบล้อมด้วยถนนหลายเส้น ซึ่งทำให้การขยายตัวเป็นไปได้ยาก
เสรีเซ็นเตอร์ถูกปรับปรุงและเปลี่ยนชื่อเป็นพาราไดซ์พาร์คในปี 2551 และพยายามเพิ่มพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อแข่งขันกับซีคอนสแควร์ แต่ยังคงเผชิญกับปัญหาด้านการเข้าถึงและการแข่งขันจากซีคอนสแควร์อย่างต่อเนื่อง พาราไดซ์พาร์คได้สร้างห้าง “Haha Mall” เพื่อเพิ่มพื้นที่และความหลากหลายของร้านค้า แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหลักเกี่ยวกับขนาดและการเข้าถึงได้
การแข่งขันและการสร้างประโยชน์ร่วม (Mutual Benefit)
แม้ว่าทั้งสองห้างจะมีการแข่งขันกันอย่างชัดเจน แต่ก็มีบางส่วนที่สามารถสร้างประโยชน์ร่วมกันได้ เช่น การที่ทั้งสองห้างตั้งอยู่ใกล้กันทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกในการเข้าถึงทั้งสองสถานที่ ซึ่งบางครั้งลูกค้าก็อาจจะเลือกใช้บริการทั้งสองห้างในครั้งเดียว การสร้างประโยชน์ร่วมกันนี้เป็นตัวอย่างของการทำงานร่วมกันเพื่อดึงดูดลูกค้าในบริเวณเดียวกัน แต่ในทางกลับกัน การที่ห้างทั้งสองอยู่ใกล้กันเกินไปก็อาจส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้น
ซีคอนสแควร์มีความได้เปรียบในด้านขนาดและการเข้าถึงที่ดีกว่า ซึ่งส่งผลให้มีลูกค้ามากกว่าและทำให้พาราไดซ์พาร์คต้องพยายามแข่งขันอย่างหนักเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ การแข่งขันนี้ทำให้พาราไดซ์พาร์คต้องหาทางเพิ่มขนาดและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบกับซีคอนสแควร์ได้
ความสำคัญของ Storefront และ Visibility
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ซีคอนสแควร์ได้เปรียบคือหน้ากว้างของห้าง (Storefront) และความสามารถในการมองเห็นได้ง่าย (Visibility) จากถนนใหญ่ ซีคอนสแควร์มีหน้ากว้างมาก ทำให้สามารถดึงดูดลูกค้าได้ง่ายกว่า ขณะที่พาราไดซ์พาร์คมีหน้ากว้างที่น้อยกว่าและมีการเข้าถึงที่ยากกว่า นอกจากนี้ ซีคอนสแควร์ยังมีที่จอดรถที่กว้างขวางและสะดวกสบายกว่า ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ดีกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการเดินทางและจอดรถ
ผลกระทบจากการขยายตัวและการเข้าถึง
การเข้าถึงและการขยายตัวของพื้นที่เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการแข่งขัน ซีคอนสแควร์สามารถขยายพื้นที่เพิ่มเติมได้ เนื่องจากมีพื้นที่โดยรอบที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์เต็มที่ ในขณะที่พาราไดซ์พาร์คถูกจำกัดด้วยถนนและสิ่งปลูกสร้างโดยรอบ ทำให้การขยายตัวเป็นไปได้ยากขึ้น นอกจากนี้ ซีคอนสแควร์ยังสามารถเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น สะพานลอยรถยนต์เพื่อเชื่อมต่อถนนและเพิ่มการเข้าถึงได้สะดวกขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบที่พาราไดซ์พาร์คไม่มี
คำถาม
- เปรียบเทียบขนาดพื้นที่และความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่าง Seacon Square และ Paradise Park (เดิมคือ Seri Center) ในแง่ของ Gravity Model
- ปัจจัยด้าน Accessibility มีผลต่อความสำเร็จของห้างสรรพสินค้าทั้งสองแห่งอย่างไร?
- การรวมตัวของ Seri Center กับ Haha Mall เป็น Paradise Park ส่งผลต่อ Gravity Model ของพื้นที่อย่างไร?
- อะไรคือข้อได้เปรียบสำคัญของ Seacon Square ที่ทำให้สามารถแข่งขันกับ Paradise Park ได้อย่างมีประสิทธิภาพ?
- จากกรณีศึกษานี้ ผู้เรียนสามารถสรุปปัจจัยสำคัญอะไรบ้างที่ควรพิจารณาในการวิเคราะห์ศักยภาพของห้างสรรพสินค้าตาม Gravity Model?
สรุป
การแข่งขันระหว่างซีคอนสแควร์และพาราไดซ์พาร์คเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการใช้ Gravity Model ในการวิเคราะห์การดึงดูดลูกค้าและการลงทุน ซีคอนสแควร์มีความได้เปรียบอย่างชัดเจนในด้านขนาด การเข้าถึง และความสามารถในการขยายตัว ขณะที่พาราไดซ์พาร์คยังคงต้องเผชิญกับปัญหาด้านการพัฒนาและการเข้าถึงที่ยากลำบาก แม้ว่าทั้งสองห้างจะสามารถสร้างประโยชน์ร่วมกันได้ในบางกรณี แต่การแข่งขันที่เข้มข้นระหว่างทั้งสองยังคงมีผลต่อการดึงดูดลูกค้าในบริเวณนี้
คำสำคัญ: ซีคอนสแควร์, พาราไดซ์พาร์ค, การแข่งขัน, การเข้าถึง, ขนาดพื้นที่
อ้างอิง: C107-3-2 Seacon Square vs Paradise Park
โพสนี้ถูกสรุปสั้นๆ จาก VDO อ้างอิง เพื่อใช้ทวน นักศึกษาควรดูวิดีโอนั้นๆ ตามรหัสวิดีโอ