ชาร์ลี มังเกอร์ (Charlie Munger) เป็นที่รู้จักในฐานะคู่หูทางธุรกิจของวอเรน บัฟเฟตต์ ซึ่งร่วมกันสร้าง Berkshire Hathaway ให้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีชื่อเสียงที่สุดในวงการการเงิน มังเกอร์เป็นบุคคลที่เงียบขรึม แต่มีวิสัยทัศน์และกลยุทธ์การลงทุนที่เฉียบขาด ด้วยความสามารถและการตัดสินใจอย่างสุขุม มังเกอร์จึงเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นนักลงทุนที่มีความสามารถและมีบทบาทสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับบริษัทมากมาย
วัยเด็กและประสบการณ์ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
ชาร์ลี มังเกอร์เกิดในครอบครัวชนชั้นกลางที่เมืองโอมาฮา รัฐเนแบรสกา เขาเติบโตขึ้นในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ มังเกอร์ได้งานที่ร้านขายของชำของครอบครัวบัฟเฟตต์ ทำงานวันละ 12 ชั่วโมงเพื่อค่าแรงเพียง 2 ดอลลาร์ต่อวัน ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้เขาเรียนรู้คุณค่าของเงินและพัฒนาจริยธรรมในการทำงานที่แข็งแกร่ง
การศึกษาที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนและฮาร์วาร์ด
มังเกอร์มีความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์อย่างยิ่ง เขาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนเพื่อศึกษาคณิตศาสตร์ และได้คะแนน A ในทุกวิชาโดยไม่ต้องทำงานมากนัก อย่างไรก็ตาม เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองปะทุขึ้น เขาจึงเข้าร่วมกองทัพ และถูกแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็นนักอุตุนิยมวิทยาที่ใช้ทักษะการวิเคราะห์ลักษณะสภาพอากาศในการทำงานช่วงสงคราม
หลังจากสงครามสิ้นสุด มังเกอร์ได้เข้าเรียนที่ Harvard Law School ซึ่งเป็นที่ที่เขาพัฒนาทักษะการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การศึกษาในด้านกฎหมายทำให้มังเกอร์เข้าใจหลักการที่สำคัญของการบริหารจัดการธุรกิจและการเงิน ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการตัดสินใจทางการเงินในภายหลัง
ช่วงเวลาที่มืดมนและการฟื้นตัว
ชีวิตส่วนตัวของมังเกอร์ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป ในช่วงทศวรรษที่ 1950 มังเกอร์ประสบกับการหย่าร้างกับภรรยาคนแรกของเขา และต้องเผชิญกับความโศกเศร้าเมื่อบุตรชายของเขา เท็ดดี้ เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เหตุการณ์นี้ทำให้มังเกอร์สูญเสียทรัพย์สินส่วนใหญ่ไปกับการรักษาพยาบาล แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่มังเกอร์ใช้บทเรียนจากความยากลำบากนี้ในการฟื้นตัวและสร้างความมั่งคั่งทางการเงินให้แก่ครอบครัว
เส้นทางการสร้างความมั่งคั่ง
หลังจากสำเร็จการศึกษาจาก Harvard Law School มังเกอร์ได้เริ่มต้นเส้นทางการทำงานในฐานะทนายความในแคลิฟอร์เนีย แต่เขารู้สึกว่าการทำงานด้านกฎหมายไม่ใช่หนทางสู่ความมั่งคั่งที่แท้จริง ในช่วงนี้เขาจึงเริ่มลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจที่นำพาเขาไปสู่ความสำเร็จอย่างมาก มังเกอร์ประสบความสำเร็จในการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์หลายโครงการ และสะสมความมั่งคั่งได้อย่างรวดเร็ว
การร่วมมือกับวอเรน บัฟเฟตต์
ในช่วงทศวรรษที่ 1960 มังเกอร์ได้ร่วมงานกับวอเรน บัฟเฟตต์ ทั้งคู่ใช้แนวคิดการลงทุนตามหลักการของเบนจามิน เกรแฮม ซึ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจที่มีคุณค่าในราคาที่ต่ำเกินจริง มังเกอร์ยังได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจซื้อกิจการต่างๆ เช่น Seas Candies และ Blue Chip Stamps ซึ่งช่วยสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงให้กับ Berkshire Hathaway
การลงทุนที่โดดเด่นของมังเกอร์และบัฟเฟตต์อยู่ที่การซื้อหุ้นของ Seas Candies ซึ่งสร้างผลกำไรมหาศาลให้กับ Berkshire Hathaway การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์นี้เป็นตัวอย่างของวิธีที่มังเกอร์ใช้วิสัยทัศน์ที่ยาวไกลและการตัดสินใจเชิงวิเคราะห์ในการสร้างมูลค่าให้กับบริษัท
หลักการลงทุนและวิธีคิด
มังเกอร์มีวิธีคิดที่เรียบง่ายและเน้นการยึดหลักการพื้นฐานทางธุรกิจ ซึ่งเขาได้นำมาประยุกต์ใช้ในการลงทุน โดยเชื่อว่าการทำความเข้าใจสิ่งที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จเป็นกุญแจสำคัญในการตัดสินใจลงทุน เขาเน้นว่าการลงทุนในธุรกิจที่ดีและมั่นคงนั้นง่ายกว่าการพยายามซ่อมแซมธุรกิจที่ล้มเหลว ซึ่งเป็นบทเรียนที่มังเกอร์เรียนรู้จากประสบการณ์ในการพลิกฟื้นธุรกิจในอดีต
สรุป
ชาร์ลี มังเกอร์เป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับ Berkshire Hathaway ร่วมกับวอเรน บัฟเฟตต์ ด้วยวิธีคิดที่เฉียบขาดและการตัดสินใจที่ชาญฉลาด มังเกอร์ไม่เพียงแค่สร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองและผู้ถือหุ้น แต่ยังเป็นแบบอย่างที่ดีในการเป็นนักลงทุนที่ยึดถือหลักการและจริยธรรมในการทำธุรกิจ
คำสำคัญ: ชาร์ลี มังเกอร์, วอเรน บัฟเฟตต์, Berkshire Hathaway, การลงทุน, ธุรกิจ
อ้างอิง: G110-F Charlie Munger
โพสนี้ถูกสรุปสั้นๆ จาก VDO อ้างอิง เพื่อใช้ทวน นักศึกษาควรดูวิดีโอนั้นๆ ตามรหัสวิดีโอ